วันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2555

ประกัน, สูงอายุ

ประกันชีวิตสำหรับคนสูงอายุ
    จะเห็นได้ว่าความต้องการสินค้าประกันชีวิตมีสูงมาก วัดจากบริษัทประกันชีวิตต่างก็เเข่งขันกันทางด้านโฆษณาเจาะกลุ่มเป้าหมายคือผู้สูงอายุ หรือวัย BABY BOOM  ในยุคหลังเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง       มีอัตราการเกิดมากที่สุด ทำให้ประชากรในกลุ่มนี้มากกว่าทุกกลุ่ม และอีกไม่ช้าก็จะมีแต่สังคมผู้สูงอายุ      ฉนั้นประกันชีวิตจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการสร้างความมั่นคง สร้างกองมรดกสำหรับทายาท สร้่างเงินบำนาญ เงินเกษียณอายุ สร้่างสวัสดิการค่ารักษาพยาบาล ประกันชีวิตเพื่อลดหย่อนภาษี
    เพราะในช่วงวัยหนุ่มอาจพลาดโอกาสที่จะทำประกับชีวิตหรือเก็บออมเงิน แต่ก็ยังไม่สายเพราะยุคนี้คือยุคแห่งการเเข่งขันบริษัทประกันได้ออกแบบประกันชีวิตมาเพื่อคนกลุ่มนี้โดยเฉพาะ เเต่การส่งเบี้ยอาจต้องใช้จำนวนเงินที่สูงกว่าปกติเพราะว่า เบี้ยประกันคิดตามอายุเริ่มต้นที่ส่งเบี้ย เเบบเดียวกัน อายุต่างกันเบี้ยประกันก็สูงกว่า ถ้าเป็นเเบบเน้นควมคุ้มครองก็อาจถูกกว่าการออม เปรียบเสมือนการเดินขึ้นเขาที่ลาดชัน ย่อมเหนื่อยเเละอาจไม่ถึงเป้าหมาย  จากการสำรวจตลาดพบว่าคนยิ่งสุงอายุยิ่งมีความต้องการประกันชีวิต
เพิ่มขึ้น แต่ไม่มีกำลังส่งเบี้ย ลองไปถามคนอายุ  85 ดูนะคะเเล้วจะรู้ว่าทำไมประกันชีวิตต้องขายผ่านตัวเเทน คำตอบคือ ประกันชีวิตเป็นสินค้าที่มองไม่เห็น จับต้องไม่ได้ ทำให้คนส่วนใหญ่นึกถึงประกันชีวิตเป็นสิ่งสุดท้าย ที่จะซื้อเมื่อมีเงิน แต่ถ้าไม่มีตัวเเทนมาขายก็อาจลืมไปเลย มารู้ตัวอีกทีตอนที่ เจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุเเล้ว ถึงวันนั้นตัวเเทนประกันชีวิตก็อยากขายมากค่ะ เเต่บริษัทประกันอาจไม่รับประกันเเล้ว
กว่าจะคิดได้ก็สายเกินไปเเล้วค่ะ


ประกันชีวิตเพื่อกองทุนการศึกษา

ประกันชีวิตเพื่อกองทุนการศึกษา
     ในยุคเศรษกิจเช่นนี้ หลายคนไม่อาจปฎิเสธได้ว่าการกู้ยืมเงิน หรือการจำนำจำนองทรัพย์สินเพื่อนำเงินไปเป็นค่าเทอมให้บุตรหลาน เป็นเรื่องปกติของคนไทยไปเเล้ว ช่วงเปิดเทอมสื่อหลายสำนักประโคมข่าวการเข้าโรงจำนำของประชาชน เป็นการขายข่าว ดูแล้วก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าทุกคนเตรียมเงินส่วนนี้ไว้ หรือวางเเผนความพร้อมทางการเงินไว้ล่วงหน้าปัญหาก็จะน้อยลงกว่านี้  เเล้วยิ่ง ปี2554 ที่ผ่านมาน้ำท่วมใหญ่ เเละนานในหลายจังหวัด รวมถึง กรุงเทพ ด้วย เปิดเทอมปีนี้คงเดือดร้อนกันหลายครอบครัวทีเดียวค่ะ แต่ชีวิตต้องสู้และดิ้นรนต่อไปค่ะ
      ว่าถึงเรื่องการวางแผนการศึกษาด้วยประกันชีวิต หัวหน้าครอบครัวคือคนหารายได้หลัก หรือบางครอบครัวก็มีรายได้กันสองคน โดยเฉพาะยุคนี้ยุคที่ ทุกคนต้องดิ้นรน จะเริ่มเข้าสู่ยุคเข้าของเเพง
อัตราเงินเฟ้อสูง ต้องทำงานกันทั้งสองคน บางคนก็มีการหย่าร้างกันไป ทำให้คนใดคนหนึ่งต้องแบกภาระเลี้ยงดูบตรคนเดียวหรือบางครอบครัวก็ทำงานทั้งคู่ ให้พ่อเเม่รับช่วงเเล้วลูกแทน ซึ่งดูจะเป็นเรื่องปกติของสังคมไทย โดยเฉพาะสังคมชนบท ที่ลูกไปทำงาน กรุงเทพ ให้ปู่ย่า ตายายเลี้ยงหลานเเทน ช้ำร้ายบางรายให้ทวดเลี้ยง วกกลับมาเรื่องวงเวียนชีวิตอยู่ค่ะ ที่มีการเล่าถึงชีวิตรันทดชีวิต น่าสงสาร แล้วก็มีคนมาให้ความช่วยเหลือ แต่จะมีสักกี่คนที่รับความช่วยเหลือจริงๆ ทุกอย่างเค้าทำไปเพื่อจุดขายของรายการ
          วันนี้ทุกคนมีโอกาสได้สร้างกองทุนการศึกษาให้บุตรหลานแน่นอนถ้านึกถึงคำว่า''ประกันชีวิต''
แต่หลายคนยอาจจะเถียงในใจว่า วันนี้เงินจะกินยังไม่มีแล้วจะเอาเงินที่ไหนมาทำประกันชีวิตล่ะ
คำตอบก็คือ สินค้าประกันชีวิตคุณสามารถกำหนดราคา ตามจำนวนเงินที่คุณสมารถเเบ่งได้ด้วยตัวคุณเองโดยไม่เดือดร้อนค่ะ เช่นเงินคุณ 100 %เเบ่งมาเพียงแค่ 10  % ซึ่ง เงิน 10% ของแต่ละครอบครัวได้ประประโยชน์เเละให้ความคุ้มครองต่างกัน เช่นบางคนอาจได้แค่ทุนประกัน 100,000 บาท หรือบางคนได้ทุนประกัน 1,000,000 บาทขึ้นความต้องการของคุณเเละพร้อมที่จะยอมรับเเละเปิดใจกับคำว่า ''ประกันชีวิต'' เเละ  ''ตัวเเทนประกันชีวิต''หรือไม่  ที่สำคัญคุณต้องเลือกตัวเเทนที่เป็นมืออาชีพ หรือตัวเเทนที่สามารถวางเเผนวิเคราะห์ความต้องการและความจำเป็นมากที่สุดในการทำประกันชีวิตของคุณได้ อย่าซื้อประกันชีวิตเพียงเพราะช่วยเหลือตัวเเทน เพียวเพราะเป็นญาติกัน เป็นเพื่อนกัน เพราะรำคาญ อย่าซื้อเกินกำลังความสามารถในการจ่ายเบี้ย  แต่ควรซื้อด้วยประโยชน์และความคุ้มค่าที่คุณได้รับ
       ถ้าคุณมีรายได้ 20,000 บาทค่อเดือน ควรเเบ่งเงินมาได้ไม่เกิน 2,000 บาทต่อเดือน จึงจะไม่ทำให้คุณเดือดร้อนขาดสภาพคล่องในชีวิตประจำวัน ถ้าซื้อเพื่อกองทุกการศึกษาควรคำนวนว่าถ้าวันหนึ่งคุณจากไปลูกคุณเรียนจบเเน่นอนถึงระดับชั้นที่คุณคาดหวังไว้ มีหลายครอบครัว ที่หัวหน้าครอบควรจากไป ลูกๆต้องลาออกจากโรงเรียนทรัพย์สิน โดยยึด  ก็ยังมีมากมายในสังคมไทย
     แต่วันนี้ประกันชีวิตช่วยคุณได้มากทีเดียว ถ้าคุณซื้อความคุ้มครองให้หัวหน้าครอบครัวหรือคนที่หารายได้หลัก ด้วยเงิน เพียง 10% ของคุณ ขอให้คุณโชคดีค่ะ
   ชวัลย์ธาร

วันเสาร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2555

'' ประกันชีวิตคือสัญญาแห่งรัก''

ประกันชีวิตกับคนเพิ่มเริ่มต้นแต่งงานสร้างครอบครัว
  เมื่อคนสองคนเกิดความรักความรู้สึกที่ดีต่อกันจึงตัดสินใจเริ่มต้นใช้ชีวิตคู่ร่วมกันตามธรรมชาติ
แต่การเเต่งงานไม่เหมือนในละครที่ชีวิตจะเเฮปปี้เอนติ้งเสมอไป การแต่งงานคือการก้าวผ่านช่วงชีวิตๆหนึ่งตือชีวิตโสด แต่การแต่งงานคือจุดเริ่มต้นการใช้ชีวิตร่วมกันของคนสองคน ที่จะต้องยอมรับและการปรับตัวเข้าหากัน การยอมรับข้อดีและข้อเสียของกันและกัน อย่าเพิ่งคิดว่าดิฉันแต่งงานเเล้วนะคะ
แต่ได้มีโอกาสเรียนรู้ชีวิตคู่ของคนรอบข้าง ที่บางครั้งสุขจนเราอิจฉา บางครั้งทุกข์จนฉันไม่อยากแต่งงาน
สุดท้ายก็เข้าใจสัจะธรรมว่า ชีวิตคู่มีทั้งสุขและทุกข์ ขอให้ทุกคนที่กำลังจะใช้ชีวิตคู่ ผ่านทุกอย่างไปได้ฯนะคะ
มาดูกันว่าทำไมคนเพิ่งเริ่มต้นแต่งงาน ต้องทำประกันชีวิต
        ในวันแต่งงานเจ้าบ่าวได้สัญญาว่าจะรักและดูแลเจ้าสาวแสนสวยของเขาตลอดไป แต่มีอะไรบ้างที่จะเป็นข้อยืนยันว่าคุณจะรักษาสัญญาแห่งรักนั้นไว้ได้ อะไรเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าคุณจะรักษาคำมั่นได้
ที่ดิน เงินสด แต่หลายคนคงนึกนะคะว่า เงินไม่สำคัญเท่ากับความรัก แต่ความรักอย่างเดียวชีวิตคู่คงอยู่ไม่ได้ ต้องถามตัวคุณเอง แต่ที่แน่ๆ ในยุคนี้หายากมากที่จะมีคนบูชาความรักจนถึงขั้นกัดก้อนเกลือกินจริงมั้ยคะ จำโฆษณาชิ้นนี้ได้มั้ยค่ะ
                        ไม่มีใครที่จะสัญญากับคนที่คุณรักได้ว่าคุณจะรักเเละดูแลกันได้ตลอดไป  ถ้าวันหนึ่งคุณออกจากบ้านไปเเล้วไม่มีวันได้กลับเข้าบ้านอีก คุณไม่มีวันรู้อนาคต วันนี้อยู่ด้วยกัน วันพรุ่งนี้อาจไม่มีเขาเเละเธออีกเเล้ว ไม่มีอะไรแน่นอน  ถ้ามีคนมาให้โอกาสคุณแล้วมาบอกว่า วันพรุ่งนี้คือวันสุดท้ายของคุณ คุณจะทำอะไรเพื่อคนที่คุณรักบ้าง? แต่คุณมีเวลาแค่วันเดียว เเละโชคดีกว่านั้นบริษัทประกันชีวิตหลายบริษัทมาให้โอกาสคุณทำประกันชีวิตเพื่อเป็นสัญญาเเห่งรักคุณคิดว่าจะทำไว้เท่าไหร่ดีคะ?
     นี่คือสัญญาแห่งรักของคนที่มีความรักอยู่ในหัวใจ
 '' ประกันชีวิตคือสัญญาแห่งรัก''
ชวัลย์ธาร